หลายคนรู้ว่าการดื่มน้ำเปล่าสำคัญต่อร่างกาย แต่บ่อยครั้งที่การทำงานหรือกิจวัตรประจำวันต่างๆ มากมาย ทำให้เพลินจนลืมดื่มน้ำ พฤติกรรมเหล่านี้นานไปอาจทำให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนภาวะขาดน้ำได้ เช่น ผิวแห้ง ตาแห้ง ปากแห้ง ท้องผูก ง่วงซึม เป็นต้น การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดี มาดูกันว่าการดื่มเปล่าน้ำนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร และวัยทำงานอย่างเราควรดื่มเท่าไหร่ต่อวัน
ประโยชน์ของน้ำเปล่าต่อร่างกาย
1 ดีต่อสมองและระบบประสาท น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงร่างกายและสมอง การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้คลายเครียด ลดอาการปวดศีรษะได้
2 ช่วยให้ผิวพรรณสุขภาพดี น้ำช่วยให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น รวมถึงช่วยเติมเต็มเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดูมีน้ำมีนวล ใบหน้าดูชุ่มชื้นขึ้น ผิวพรรณสดใส
3 ช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ เป็นตัวการสำคัญที่ช่วยให้ปฏิกิริยาเคมีของกระบวนการเผาผลาญอาหาร และไขมันในร่างกายเป็นไปอย่างปกติ
4 ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ น้ำจะระบายความร้อนที่เป็นส่วนเกินออกจากร่างกายในรูปแบบเหงื่อที่ระเหยจากผิวหนัง เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่
5 ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ปกติ น้ำช่วยลำเลียงสารอาหารที่มีประโยชน์ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ตลอดเวลา
6 ช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะน้ำจะนำพาของเสียให้ออกจากร่างกายได้ง่าย ทั้งทางอุจจาระ ปัสสาวะ และรูขุมขน
วัยทำงานควรดื่มเท่าไหร่ต่อวัน
วิธีคิดคือ น้ำหนัก (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 ÷ 2 จะได้เป็นปริมาณน้ำเป็นมิลลิลิตรที่เราควรดื่มใน 1 วัน
ตัวอย่าง น้องจ๊อบหนัก 50 (กิโลกรัม) x 2.2 x 30 ÷ 2 ปริมาณน้ำที่ควรดื่มใน 1 วัน คือ 1,650 มิลลิลิตร
สำหรับใครที่เพิ่งเริ่ม เทคนิคที่น้องจ๊อบอยากจะแนะนำคือ พกขวดน้ำไว้ใกล้ตัว แล้วค่อย ๆ จิบระหว่างวัน ไม่ควรดื่มรวดเดียวทีละมาก ๆ เพราะจะทำให้จุกได้ นอกจากนี้ให้เรานึกถึงเหตุผลดี ๆ และประโยชน์จากการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ จะได้มีกำลังใจทำให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก