JOBShopThai
หางานที่ชอบ ช้อปงานที่ใช่

รู้จัก “กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง” หลักประกันใหม่ของคนทำงาน

22 กรกฎาคม 2568


ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป คนทำงานอย่างเรา จะมีหลักประกันใหม่เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง คือ “กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง” ภายใต้การดูแลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่จะช่วยดูแลเรากรณีลาออก ถูกเลิกจ้าง หรือเกษียณ หลายคนที่กำลังสงสัยว่า กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง คืออะไร กองทุนนี้ต่างจากประกันสังคม หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ

Q1: กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างคืออะไร และมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร?

A: กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง คือ กองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้ลูกจ้างได้รับความคุ้มครองและมีเงินเก็บเพื่อเป็นหลักประกันการใช้ชีวิตของลูกจ้าง โดยจะนำเงินสมทบที่ได้จากนายจ้างและลูกจ้างไปลงทุนให้มีผลตอบแทน และเป็นหลักประกันการเก็บเงินให้กับลูกจ้าง คล้ายกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยกองทุนดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

.

Q2: ลูกจ้างต้องส่งเงินสมทบ ในอัตราเท่าไร?

A: เงินสมทบจะร่วมกันส่งระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง ในอัตราเท่าๆ กัน ดังนี้

  • ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2573 อัตราฝ่ายละ 0.25% ของค่าจ้าง (ไม่มีเพดาน)
  • ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2573 เป็นต้นไป อัตราฝ่ายละ 0.50% ของค่าจ้าง (ไม่มีเพดาน)

.

Q3: ต่างกับประกันสังคมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างไร?

 

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
(กสจ.)

ประกันสังคม
(สปส.)

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กสลช.)

อัตราสมทบ





พนักงาน + นายจ้าง ฝ่ายละ 0.25% (1 ต.ค. 68 – 30 ก.ย. 73) และ 0.50% (หลังจากนั้น) ของค่าจ้างไม่มีเพดานขั้นต่ำ/สูง หักตามค่าจ้างจริง

พนักงาน + นายจ้าง + รัฐ ฝ่ายละ 5% สูงสุดไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน



ตามที่กำหนดในข้อบังคับของกองทุน




วัตถุประสงค์ / ประโยชน์



เพื่อสร้างเงินสำรองเมื่อ ลาออก, ถูกเลิกจ้าง, เกษียณ, หรือเสียชีวิตทันทีหลังออกจากงาน


คุ้มครองความเสี่ยง เช่น เจ็บป่วย, คลอด, ทุพพลภาพ, ว่างงาน, สงเคราะห์บุตร, ชราภาพ (รับบำนาญเมื่ออายุ 55 ปี)

ออมเพื่อการเกษียณ, อาจเบิกก่อนเกษียณในกรณีพิเศษ เช่น ทุพพลภาพ หรือออกจากงาน

การถอนเงิน


ถอนคืนได้ทันทีเมื่อออกจากงาน ไม่ต้องรออายุเกษียณ


ถอนคืนได้เฉพาะกรณีว่างงาน (เงินทดแทน) หรือเมื่อเสียชีวิตรับเงินบำนาญเมื่ออายุ 55+ ต้องจ่ายครบตามเงื่อนไข

ถอนเมื่อออกจากงาน เกษียณ หรือบางกรณีพิเศษตามกองทุน เช่น ทุพพลภาพ

สิทธิประโยชน์ทางภาษี



จะมีการประกาศต่อไปในอนาคต



เงินสมทบใช้ลดหย่อนภาษีได้ แต่ไม่ใช่ในขณะที่ลาออกเมื่ออายุครบ 55 ปี จะได้รับการยกเว้นภาษีบางส่วน

เงินสะสมลูกจ้างใช้ลดหย่อนได้ตามกฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 .

Q4: ลูกจ้างที่มี “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” อยู่แล้ว ยังมีสิทธิ์อยู่ในกองทุนนี้หรือไม่?

A: กรณีที่พนักงานเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ รอบการจ่ายเงินค่าจ้าง วันที่ 1 ตุลาคม 2568 จะไม่สามารถสมัครเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้

อย่างไรก็ตาม กรณีที่พนักงานไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ รอบการจ่ายเงินค่าจ้างวันที่ 1 ตุลาคม 2568 หรือภายหลังจากนั้นมีการลาออกจากการเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของนายจ้าง พนักงานจะถูกจัดให้เข้าเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างทันที

.

Q5: ลูกจ้างจะได้รับเงินจากกองทุนในกรณีใดบ้าง?

A: จะได้รับสิทธิประโยชน์ในกรณีต่อไปนี้เท่านั้น 1) เสียชีวิต 2) ลาออก 3) ถูกเลิกจ้าง (ไม่ว่าจะได้รับค่าชดเชยหรือไม่ก็ตาม)

.

Q6: หากออกจากบริษัทเดิม จะต้องทำอย่างไรกับเงินในกองทุน?

A: ลูกจ้างต้องขอรับเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างที่นำส่งไว้กับนายจ้างเดิมภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่ลาออก ถูกเลิกจ้าง หรือเสียชีวิต

.

Q7: ถ้าย้ายไปอยู่บริษัทใหม่ ต้องทำอย่างไรกับกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง

A: กรณีไปเริ่มงานกับบริษัทใหม่ จะต้องพิจารณาตามเงื่อนไข ว่าบริษัทนั้นๆ เข้าข่ายที่จะต้องเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างหรือไม่ (มีพนักงานมากกว่า 10 คน ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้พนักงานใหม่)

หากเข้าเงื่อนไข ลูกจ้างจะต้องถูกให้เข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง โดยหักเงินตามอัตราที่กำหนดในรอบจ่ายค่าจ้างเดือนแรก

.

Q8: สามารถตรวจสอบยอดเงินสะสมของตนเองได้อย่างไร?

A: สามารถตรวจสอบยอดเงินได้ตามประกาศของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานที่จะมีการประกาศต่อไป

.

Q9: หากนายจ้างไม่ส่งเงินสมทบให้ ลูกจ้างต้องทำอย่างไร?

A: กรณีที่นายจ้างไม่ส่งเงินสมทบให้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม กฎหมายถือว่านายจ้างส่งเงินจำนวนดังกล่าวเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างและลูกจ้างสามารถเบิกเงินจำนวนดังกล่าวได้ ทั้งนี้ การที่นายจ้างไม่ส่งเงินถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างมีสิทธิสั่งให้นายจ้างส่งเงินสมทบย้อนหลังในส่วนที่ขาดไปได้

.

Q10: ลูกจ้างที่ทำงานไม่ประจำหรืองานชั่วคราวจะมีสิทธิ์เข้าร่วมกองทุนไหม?

A: หากเป็นพนักงานที่ได้รับเงินค่าจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน มีสิทธิเป็นสมาชิกกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้




ขอขอบคุณที่มาจาก

Adecco Thailand

กระทรวงแรงงาน


บทความล่าสุด

5 อันดับ บทความยอดนิยม