สำหรับวัยทำงาน เมื่อต้องปฏิเสธเพื่อนร่วมงานแต่ละครั้ง อาจเป็นเรื่องลำบากใจของใครหลายคน เพราะเราไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกผิดหวังหรือเสียใจ แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาความสมดุลในการทำงานและชีวิตส่วนตัว มาดูกันว่าเราควรปฏิเสธอย่างไร เพื่อถนอมน้ำใจและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว
2. แสดงความขอบคุณ เมื่อเราได้รับคำชวน แต่ไม่สามารถเข้าร่วมได้ การพูดขอบคุณอีกฝ่ายก่อนปฏิเสธไป เป็นอีกวิธีที่แสดงถึงความจริงใจ และเป็นการถนอมน้ำใจกัน เช่น "ขอบคุณที่คิดถึงเรานะ แต่ว่าเย็นนี้มีนัดแล้ว ไว้โอกาสหน้านะ"
3. ขอไปเช็กตารางงานก่อน หากเพื่อนร่วมงานขอให้ช่วย แล้วเราไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาช่วยไหม หรือยังไม่อยากปฏิเสธไปทันที ให้ลองบอกว่า “เราขอไปเช็กตารางงานก่อนนะ ช่วงนี้มีหลายโปรเจคเลย แล้วเราจะรีบตอบกลับ” วิธีนี้จะช่วยเลี่ยงสถานการณ์กดดันตรงหน้าได้ ให้เราได้มีเวลาไปเช็กหรือทบทวนอีกที หากไม่ว่างจริงๆ ก็สามารถบอกปฏิเสธภายหลังได้
4. ช่วยเสนอทางเลือกอื่น ถ้าเราช่วยไม่ได้จริง ๆ การเสนอทางเลือกอื่นที่เราคิดว่าจะช่วยอีกฝ่ายได้ ก็แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเรา เช่น ถ้าเป็นเรื่องที่เราไม่ถนัดเลย แต่พอรู้ว่าใครช่วยได้ ให้ลองแนะนำว่า “ลองถามพี่…ดูไหม พี่เขาเคยดูแลเรื่องนี้มาก่อน น่าจะช่วยแนะนำได้”
5. บอกผลกระทบที่จะเกิดกับเรา บางครั้งคนที่มาขอความช่วยเหลืออาจยังไม่รู้สถานการณ์ของเรา การบอกผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเรา จะช่วยให้เพื่อนเข้าใจสถานการณ์ของเรามากขึ้น เช่น "พอดีตอนนี้เรามีงานด่วนที่ต้องรีบส่งภายในวันนี้ ถ้าไปช่วยเธอ อาจจะทำงานนี้ไม่เสร็จทันเวลา ต้องขอโทษด้วยที่ไปช่วยไม่ได้จริงๆจ้ะ” เป็นต้น
การปฏิเสธเพื่อนร่วมงานเป็นสิทธิ์ที่เราทำได้ หากคำขอหรือคำชวนนั้นทำให้คุณอึดอัดหรือลำบากใจ การปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แสดงออกถึงความจริงใจ จะช่วยทำให้อีกฝ่ายเข้าใจ และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ ทำให้บรรยากาศการทำงานยังคงราบรื่น และสามารถทำงานร่วมกันได้แบบสบายใจต่อไป
ขอขอบคุณที่มาจาก
